000
ปรึกษาเครื่องเสียง อจ. ไมตรี โทร 099-569-6459    
 
บอร์ดพูดคุย, ซื้อ-ขายเครื่องเสียง
>> audio-teams.com
>> noom-hifi.com
>> wijitboonchoo.com
>> hifi55.com  
>> sk-audiophile.com
>> htg2.net
นิตยสารเครื่องเสียง
>> what Hi-Fi? Thailand
>> The Wave
>> Audiophile-Videophile
>> gm2000.com
>> The Stereo
ร้านค้าเครื่องเสียง
>> Piyanas Electric
>> KS Sons Group
>> Conice (บ้านทวาทศิน)
>> อัศวโสภณ
>> munkonggadget.com
>> bkkaudio.com
 
ปรับขนาดตัวหนังสือ เช่น 15, 16, 18, 20, + + / ยกเลิกใส่ 0 :

หมวดหมู่ > บทความ > ปกิณกะ > หายนะเศรษฐกิจโลก... หายนะมนุษยชาติ...!!! (2)
วันที่ : 19/01/2016
5,772 views

หายนะเศรษฐกิจโลก... หายนะมนุษยชาติ...!!! (2)

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

ในเล่มที่แล้ว ผมได้เขียนถึง ?รากเหง้า? ของมูลเหตุแห่งหายนะเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ นั่นคือ ?ระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรม (mass)? ที่สร้างหุ่นยนต์มาแย่งงานของคนอย่างมหาศาลอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ประเทศที่ค่าแรงต่ำกว่า ก็จะส่งออกการตกงานไปยังรากหญ้าของประเทศที่มีค่าแรงสูงกว่าเป็นทอดๆ ไป และบังเอิญว่า ประเทศที่คนตกงานมากที่สุดดันเป็นประเทศที่มีอัตราการบริโภคสูงที่สุดในโลก มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก มีความประมาทในการใช้เงิน ?ในอนาคต? ในรูปเครดิตหรือสินเชื่อมากที่สุดในโลกอย่างสหรัฐฯ

??????????????? เมื่อเป็นเช่นนี้ ธุรกิจการเงินทั้งหมดถูกหมุนด้วยลูกข่างแห่งความเสี่ยงเป็นทอดๆ เป็นลูกข่างที่หมุนเร็วจี๋และเปราะบาง เพื่อแลกกับผลกำไรจากการบริหารความเสี่ยงที่สูงกว่าธุรกิจอื่น การกักตุนและปั่นราคาน้ำมันของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ระดับโลกที่รวมหัวสูบเลือดจากคนทั่วโลกทำให้ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้นกว่าที่มันควรจะเป็นถึง 3 เท่า อาหารการกินถูกลากให้ขึ้นไปถึง 2 เท่า

??????????????? เมื่อเป็นเช่นนี้ ผลที่เกิดขึ้นก็คือ คนทำงานกินเงินเดือนระดับรากหญ้าเกิดอาการ ?ลัดวงจร? ไม่สามารถประคอง ?การหมุนเงินจ่ายหนี้? ได้อีกต่อไป วงจรเครดิตช็อตระเบิด ไล่ตั้งแต่รากหญ้าขึ้นไปจนถึงระดับสถาบันการเงิน ท้ายสุดย้อนกลับไปทิ่มกองทุนสามานย์เฮดจ์ฟันด์เอง เรียกว่าน้ำลดตอผุด หลายสถาบันการเงินที่หมกเม็ด เก็บอาการ ก็แตกโพละเป็นหนองไหลออกมาเยิ้มนองไปทั้งวงการเงินทั่วโลก พร้อมๆ กับผู้ผลิตยักษ์ใหญ่คับโลกในแต่ละแวดวงอุตสาหกรรมก็พากันร่อแร่ ยอดขายแห้งเหือดเกือบครึ่ง ยังษ์เล็กยักษ์ใหญ่ขาดทุนกันทั่วหน้า แม้แต่ยักษ์ค้าปลีกก็เริ่มเจ๊งบ้างแล้ว

??????????????? ปรากฏการณ์นี้ลุกลามไปทั่วโลก เร็วยิ่งกว่าโรคระบาด ผลคือคนตกงานพุ่งสูงลิบเป็นแสนๆ คนแล้ว ไม่นับที่ประเทศจีนเอง ที่ตกเป็นต้นตอของแรงงานราคาถูก สินค้าราคาถูกที่ถล่มไปทั่วโลกก็ถูกพิษเศรษฐกิจหลอมละลายนี้ ย้อนกลับมาเล่นงานเสียเอง เมื่อประชาคมแทบทั้งโลก ?ตกงาน? และ ?หมดกำลังซื้อ? แล้วจีนจะผลิตของไปขายใคร ผลคือ โรงงานนับพันๆ แห่งทั่วจีนต้องปิดกิจการ คนตกงานทะลุ 20 ล้านคนภายใน แค่ 3 เดือน และสร้างความหนักใจให้แก่รัฐบาลกลางของจีนมาก เกรงงว่า ถ้าเหตุการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ คนกำลังจะอดตายเป็นสิบๆ ล้านคน มีผลต่อการปกครอง กองทัพเอาไม่อยู่แน่ มีโอกาสเกิดมิคสัญญีได้ตลอดเวลา

รากเหง้าของปัญหา

??????????????? เมื่อมองย้อนกลับไปจากผลสู่เหตุ เราจะเห็นได้ชัดทันทีว่า รากเหง้าของปัญหาคือ ระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรม (mass) ที่ขับเคลื่อนด้วยหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ (robot) ที่มา ?แย่งงานคน? และทำให้คนตกงานระบาดไปทั่วโลก ฉุดกำลังซื้อตกต่ำ ลากสถาบันการเงินให้ล้มครืนทั้งระบบ

ทำไมเราต้องผลิตทีละมากๆ (mass)

??????????????? ระบบเศรษฐศาสตร์สุนัขหางด้วนสอนเราว่า การผลิตเยอะๆ ช่วยลดต้นทุนการผลิตและการตลาดได้ ทำให้ได้เปรียบคู่แข่ง สามารถขายได้ในราคาต่ำกว่าคู่แข่ง เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด ทฤษฎีน่าจะใช้ได้ผล ตราบเท่าที่ผู้เล่นในเกมส์นี้มีพลังหรือหน้าตักที่ต่างกันมาก เกมสามารถ ?จบ? ได้เร็ว ผู้เล่นที่ด้อยกว่าเจ๊งไปหรือต้องฉีกหนีไปในสายอื่นหลีกทางกัน แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ ?ผู้เล่น? มีกระสุนพอๆ กัน เกมส์ถูกทำให้ยืดเยื้อ ผู้เล่นทุกคนถูกล้างสมองด้วยเศรษฐศาสตร์สุนัขหางด้วนว่า ต้องชิงความได้เปรียบด้วย ?ต้นทุนที่ลดลงจากการผลิตที่มากขึ้น หรือ economics of scale? ทุกผู้เล่นเพิ่มกำลังการผลิต เร่งสร้างโรงงานไปทั่วสมรภูมิด้วยความเชื่อพื้นฐานแบบคิดมุมแคบว่า ถ้าราคาถูกลง ตลาดจะขยายตัวแน่ นั่นคือ ขายเยอะ เอากำไรต่ำๆ ผลคือ จากรายงานการขายทั่วโลก ทุกผู้เล่นมียอดขายถ้านับเป็นชิ้นจะมากขึ้น แต่ถ้านับเป็นเม็ดเงิน จะต่ำลง โดยไม่ต้องพูดถึงผลกำไรต่อชิ้นที่บางเฉียบ (ตัวอย่าง เครื่องเล่น DVD ทีวีจอแบน LCD/PLASMA กล้องถ่ายรูปดิจิตอล กล้องเทป โทรศัพท์มือถือ มินิคอมโป ฯลฯ)

??????????????? วันนี้ กำลังการผลิตทั่วโลก ทุกผลิตภัณฑ์เกินการบริโภคถึงกว่า 50-60 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมต้องระดมโละคนงานทิ้งกันทีเป็นแสนคน ล้านคน เพื่อให้การผลิตมียอดต้นทุนต่ำสุด พวกเขากระทำทุกวิถีทางทั้งตัวเทคโนโลยีหลัก การออกแบบตัวผลิตภัณฑ์เอง (design) ขั้นตอนกระบวนการผลิต (production) ขั้นตอนการจัดส่งกระจายสินค้า (logistic) (หรือแม้กระทั่ง การทุจริตในระบบภาษีและจริยธรรม) เพื่อหั่นต้นทุนต่ำที่สุด โดยสิ่งที่เป็นหลักใหญ่ที่สุดคือ ลดขั้นตอนให้เหลือน้อยที่สุด ตัดแรงงานคนออกมากที่สุด (เชื่อกันว่า ท้ายที่สุด ห่วงโซ่แห่งการกระจายสินค้า อาจเป็นการส่งตรงจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคเลย!)

??????????????? ทั้งหมดเหล่านี้ ล้วนผลัก ?คน? ออกไปจากสายธุรกิจ นั่นคือ คนตกงานมากขึ้นๆ พวกนายทุนชอบอ้างว่า ก็ไปหางานอื่นทำสิ แต่พวกเขาลืมหรือไม่สนใจที่จะคิดต่อว่า งานอื่น ผู้ผลิตอื่นๆ ก็พูดในทำนองเดียวกันนี้ นับวัน คนในโลกนี้เกิดมากขึ้นๆ เพื่อมาพบกับโลกที่นับวัน คนตกงานมากขึ้นๆ พวกเขาจะเอาอะไรกิน เรียนกันจะเป็นจะตาย เพื่อจบออกไปตกงาน แล้วจะเรียนกันไปทำไม ระบบการสอนเศรษฐศาสตร์ปัจจุบันก็พร่ำสอนแต่วิธีการทำให้คนตกงานมากขึ้นๆ เอาตัวรอดคนเดียว บริษัทเดียว คนอื่นช่าง (...) มัน

??????????????? เมื่อเหตุการณ์ ปฐมเหตุ เบื้องต้น เบื้องกลาง และเบื้องปลาย มันเป็นวงจรอุบาทว์อย่างนี้ โดยที่ไม่มีใครตระหนักและเฉลียวใจ ไม่ว่าลัทธิการเมืองไหน ทั้งประชาธิปไตย(จอมปลอม) ทุนนิยม(สามานย์) คอมมิวนิสต์(ลูกครึ่ง) เผด็จการ(ล้านปี) ผมจึงไม่เชื่อว่า ทางแก้ปัจจุบันที่แต่ละประเทศไม่ว่า อภิมหาอำนาจอย่างจีน หรืออเมริกา หรือค่ายยุโรป หรือค่ายญี่ปุ่น รวมทั้งของบ้านเรา ใช้กันอยู่ที่สักแต่เอาเงินเข้าทุ่ม เหมือนใส่น้ำ ตุ่มรั่ว ชวนให้ประชาชน ?ใช้จ่าย? เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ

??????????????? จะแก้ปัญหาได้อย่างไร ตราบใดที่เนื้อร้าย รากเหง้าแห่งปัญหา คือ ระบบอุตสาหกรรม ไม่ได้รับการยกเครื่องใหม่ ไม่พยายามให้คนมีงานทำอย่างถาวร ไม่แย่งงานมาจากหุ่นยนต์ ไม่ไล่หุ่นยนต์ไปทำงานที่มนุษย์ทำไม่ได้ ไม่กระจายกิ่งก้านของระบบธุรกิจจัดส่งและระบบการขาย ตราบนั้น ปัญหานี้จะไม่มีวันแก้ได้เลย

??????????????? ผมกลับมองว่า ปัญหาเศรษฐกิจล้มละลายนี้ได้แผ่ซึมกระจายขยายตัวไปถึงระดับไหนแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่จะแบกรับได้อีกนานแค่ไหน ฟางเส้นสุดท้าย ที่จะทำให้วัวหลังหักอยู่ตรงไหน ทุกรัฐบาลต้องไม่รอหรือซื้อเวลาให้วินาทีแห่งหายนะนั้นมาถึง เพราะเมื่อมันมาถึง บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ ไร้ขื่อแป โลกจะกลับไปสังคมอนารยะ ตัวใครตัวมัน ไม่มีประเทศ ไม่มีรัฐบาล ทุกคนคิดแต่จะเอาตัวรอดโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น ต่อให้ประเทศใหญ่แค่ไหน ก็ไม่รอด ยิ่งเป็นประเทศใหญ่ ยิ่งมีความเจริญทางวัตถุมากเท่าไหร่ ยิ่งซับซ้อน โกลาหล หายนะยิ่งหนักหนาสาหัส ยิ่งเป็นนรกแค่นั้น นี่คือหายนะของมนุษยชาติชัดๆ

ทางออก

??????????????? เราต้องโยนตำราเศรษฐศาสตร์ การพาณิชย์ทั้งหลายทิ้งให้หมด แล้วมาเริ่มต้นใหม่ สร้างเศรษฐศาสตร์ที่มอง 360 องศา ทุกแง่มุม นำ ?ความเป็นคน? มาเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุด ต้องยกความเป็นมนุษย์ไว้เหนือสิ่งใด สร้างสังคมที่อยู่ร่วมกัน ต้องกระจายความมั่งคั่ง และเชิดชูศีลธรรมอย่างถึงที่สุด

??????????????? อุตสาหกรรมมีได้ แต่ต้องเป็นไปเพื่อ ?สร้างงาน? อย่างแผ่กว้างมิใช่กระจุกใช้การผลิตด้วยหุ่นยนต์ มารับใช้คนสำหรับการผลิตที่เกินความสามารถของมนุษย์ ซึ่งมนุษย์ทำไม่ได้ อะไรที่คนทำได้ แม้จะช้า ต้องให้คนทำ แต่ใช้หุ่นยนต์เสริมให้การทำนั้นออกมาได้มีมาตรฐาน หุ่นต้องตามคน ไม่ใช่คนตามหุ่นยนต์

??????????????? การบริหารจัดการ ต้องมองโดยองค์รวมทั้งหมดที่เกี่ยวพันโยงใยถึงกันอย่างไม่มีวันตัดขาดแบบเอามาพิจารณาเฉพาะส่วน ต้องล้างตลาดทุน ตลาดหุ้นออกไปจากสังคมมนุษย์ (40 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์มากเกินพอแล้วว่า ไม่มีรัฐบาลไหนในโลก เข้าไปควบคุมให้มันโปร่งใสได้) ต้องกระจายการผลิตและบริการไปสู่ ?การใช้คน? ให้มากที่สุด ลดการผลิตแบบอุตสาหกรรมทีละเยอะๆ (mass) เพื่อลดอัตราการบริโภค ลดการทิ้งของเก่าลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ (วัตถุดิบ) ลดการใช้พลังงาน ลดมลพิษและขยะล้นโลก

??????????????? ขณะเดียวกัน ต้องสนับสนุนการผลิตแบบ ?ทนทาน? (built for last) เพิ่มวงจรชีวิตให้แก่สินค้า (life cycle) ออกกฎหมายบังคับการขาย ?ต้องมีกำไร? (ป้องกันการตัดราคา) หรือป้องกันการฮั้วราคา (anti trust) สร้างความยุติธรรมและสมน้ำสมเนื้อกันระหว่างสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตร ส่งเสริมการขนส่งแบบมวลชน (สาธารณะ) มิใช่ต่างคนต่างมีรถขับ ฯลฯ

สรุป

??????????????? ผมก็พูดเรื่อยเปื่อยไปอย่างนั้นแหละ รู้ว่า ข้อเสนอแนะเหล่านี้ไม่มีใครสนใจหรอก และคงแก้อะไรไม่ได้ ผมเชื่อว่า จะมีการล้างโลกและโลกต้องถึงมิคสัญญีแน่นอน ไม่นานจากนี้ จะไม่มีใครเอาตัวรอดคนเดียวได้ สำหรับพวกเรา ทางออกทางเดียวคือ เข้าหาธรรมะ ประคองสติ และเตรียมตัวตายให้ดีที่สุด เพื่อเข้าถึงนิพพาน จะได้ไม่ต้องเวียนว่ายลงมาเกิดในโลกมิคสัญญี นรกบนดิน นี้อีก

??????????????? ขอไว้อาลัย ให้แก่โลกและมวลมนุษยชาติ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

??????????????? หมายเหตุ คุณไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ จบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาอิเล็กทรอนิกส์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง รุ่นที่ 9 ได้เขียนบทความทางวิชาการและบทวิพากษ์ ลงนิตยสารต่างๆ นับไม่ถ้วนบทความตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเครื่องเสียงและภาพที่วงการรู้จักมากที่สุด

www.maitreeav.com

www.maitreeav.com
สำนักงาน : 313/129 ซ. เคหะร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร. 081-5500269 , 099-569-6459